ซี่โครงหมูอบซอสเสาวรสและสับปะรด


ซี่โครงหมูอบซอสเสาวรสและสับปะรด
ซี่โครงหมูอบซอสเสาวรสและสับปะรด

เมนูซี่โครงหมูเสาวรสและน้ำสับปะรดจานนี้เป็นเมนูที่แปลกใหม่และรสชาติอร่อยอย่างน่าประหลาดใจที่ผมได้ลิ้มลองระหว่างเดินทางในหนานหนิง หลังจากได้ลองซี่โครงหมูเสาวรสท้องถิ่นในหนานหนิง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเสาวรสหลัก ผมก็เติมน้ำสับปะรดโฮมเมดลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ เปลือกเสาวรสสีทองใสเป็นภาชนะที่บอบบาง ห่อหุ้มซี่โครงไว้ ราดด้วยซอสเข้มข้น โรยหน้าด้วยงาขาว รูปลักษณ์ภายนอกก็งดงามจับใจ ความหวานของน้ำสับปะรดโฮมเมดของผมผสมผสานอย่างลงตัวกับรสเปรี้ยวของเสาวรส ช่วยขับรสชาติซอสเข้มข้นของซี่โครงให้นุ่มนวลลง และให้กลิ่นผลไม้สองชนิดกระจายไปทั่วปาก อาหารจานนี้โดดเด่นด้วยรสชาติผลไม้เมืองร้อนที่สดชื่นกว่าสูตรดั้งเดิมของท้องถิ่น ซี่โครงหมูตุ๋นด้วยโบรมีเลนจนนุ่มและหอมอร่อย แต่ละคำให้รสชาติที่ลงตัวอย่างลงตัว ทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด สร้างสรรค์ประสบการณ์รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถึงแม้ราคาของอาหารจานนี้จะค่อนข้างสูงในย่านนี้ เกือบร้อยดอลลาร์ แต่เมื่อได้ลิ้มลองแล้ว คุณจะรู้ได้ทันทีว่ามันคุ้มค่าเงินที่เสียไป เมื่อได้ลิ้มลองแล้ว คุณจะไม่มีวันลืม!

วัตถุดิบ

ขั้นตอน

  1. ปอกเปลือกและคว้านไส้สับปะรด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คั้นน้ำด้วยเครื่องคั้นน้ำผลไม้ และใส่ส่วนเกินลงในถุงที่ปิดสนิทแล้วแช่แข็งไว้ใช้ในภายหลัง
    ปอกเปลือกและคว้านไส้สับปะรด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คั้นน้ำด้วยเครื่องคั้นน้ำผลไม้ และใส่ส่วนเกินลงในถุงที่ปิดสนิทแล้วแช่แข็งไว้ใช้ในภายหลัง
  2. ล้างเสาวรส ผ่าครึ่งสี่ส่วน ใช้ช้อนตักเนื้อเสาวรสออกมา แล้วกรองผ่านกระชอนเพื่อคั้นน้ำเสาวรสออกมา (ประมาณ 50 กรัม) ถ้าไม่รังเกียจรสชาติของเมล็ดเสาวรส ก็ไม่จำเป็นต้องกรอง การใส่เมล็ดเสาวรสลงไปจะช่วยเพิ่มรสชาติและความสวยงามให้กับอาหาร เหมาะสำหรับเลี้ยงแขกที่มาเยี่ยม (สัตว์เลี้ยงของฉันไม่ชอบเสาวรส ฉันเลยกรองเอาเมล็ดออก)
    ล้างเสาวรส ผ่าครึ่งสี่ส่วน ใช้ช้อนตักเนื้อเสาวรสออกมา แล้วกรองผ่านกระชอนเพื่อคั้นน้ำเสาวรสออกมา (ประมาณ 50 กรัม)

ถ้าไม่รังเกียจรสชาติของเมล็ดเสาวรส ก็ไม่จำเป็นต้องกรอง การใส่เมล็ดเสาวรสลงไปจะช่วยเพิ่มรสชาติและความสวยงามให้กับอาหาร เหมาะสำหรับเลี้ยงแขกที่มาเยี่ยม (สัตว์เลี้ยงของฉันไม่ชอบเสาวรส ฉันเลยกรองเอาเมล็ดออก) ล้างเสาวรส ผ่าครึ่งสี่ส่วน ใช้ช้อนตักเนื้อเสาวรสออกมา แล้วกรองผ่านกระชอนเพื่อคั้นน้ำเสาวรสออกมา (ประมาณ 50 กรัม)

ถ้าไม่รังเกียจรสชาติของเมล็ดเสาวรส ก็ไม่จำเป็นต้องกรอง การใส่เมล็ดเสาวรสลงไปจะช่วยเพิ่มรสชาติและความสวยงามให้กับอาหาร เหมาะสำหรับเลี้ยงแขกที่มาเยี่ยม (สัตว์เลี้ยงของฉันไม่ชอบเสาวรส ฉันเลยกรองเอาเมล็ดออก)
  3. ใส่ซี่โครงหมูลงในชาม เติมแป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ ถูซี่โครงหมูด้วยมือซ้ำๆ เพื่อขจัดคราบเลือดหรือสิ่งสกปรก ล้างด้วยน้ำสะอาด 3 ครั้ง แล้วสะเด็ดน้ำให้สะอาด
    ใส่ซี่โครงหมูลงในชาม เติมแป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ ถูซี่โครงหมูด้วยมือซ้ำๆ เพื่อขจัดคราบเลือดหรือสิ่งสกปรก ล้างด้วยน้ำสะอาด 3 ครั้ง แล้วสะเด็ดน้ำให้สะอาด ใส่ซี่โครงหมูลงในชาม เติมแป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ ถูซี่โครงหมูด้วยมือซ้ำๆ เพื่อขจัดคราบเลือดหรือสิ่งสกปรก ล้างด้วยน้ำสะอาด 3 ครั้ง แล้วสะเด็ดน้ำให้สะอาด
  4. หมักซี่โครง ใส่ซี่โครงที่สะเด็ดน้ำแล้วลงในชามขนาดใหญ่ ใส่ขิง 3 ชิ้น ไวน์ปรุงอาหาร 20 มิลลิลิตร พริกไทยขาว 2 กรัม และเกลือ 3 กรัม เติมน้ำเสาวรส 25 กรัม และน้ำสับปะรด 20 กรัม คนให้เข้ากันด้วยมือ ปิดด้วยพลาสติกแรป หมักในตู้เย็นเป็นเวลา 4 ชั่วโมง (ยิ่งหมักนาน รสชาติยิ่งเข้มข้น)
    หมักซี่โครง
ใส่ซี่โครงที่สะเด็ดน้ำแล้วลงในชามขนาดใหญ่ ใส่ขิง 3 ชิ้น ไวน์ปรุงอาหาร 20 มิลลิลิตร พริกไทยขาว 2 กรัม และเกลือ 3 กรัม เติมน้ำเสาวรส 25 กรัม และน้ำสับปะรด 20 กรัม คนให้เข้ากันด้วยมือ ปิดด้วยพลาสติกแรป หมักในตู้เย็นเป็นเวลา 4 ชั่วโมง (ยิ่งหมักนาน รสชาติยิ่งเข้มข้น) หมักซี่โครง
ใส่ซี่โครงที่สะเด็ดน้ำแล้วลงในชามขนาดใหญ่ ใส่ขิง 3 ชิ้น ไวน์ปรุงอาหาร 20 มิลลิลิตร พริกไทยขาว 2 กรัม และเกลือ 3 กรัม เติมน้ำเสาวรส 25 กรัม และน้ำสับปะรด 20 กรัม คนให้เข้ากันด้วยมือ ปิดด้วยพลาสติกแรป หมักในตู้เย็นเป็นเวลา 4 ชั่วโมง (ยิ่งหมักนาน รสชาติยิ่งเข้มข้น) หมักซี่โครง
ใส่ซี่โครงที่สะเด็ดน้ำแล้วลงในชามขนาดใหญ่ ใส่ขิง 3 ชิ้น ไวน์ปรุงอาหาร 20 มิลลิลิตร พริกไทยขาว 2 กรัม และเกลือ 3 กรัม เติมน้ำเสาวรส 25 กรัม และน้ำสับปะรด 20 กรัม คนให้เข้ากันด้วยมือ ปิดด้วยพลาสติกแรป หมักในตู้เย็นเป็นเวลา 4 ชั่วโมง (ยิ่งหมักนาน รสชาติยิ่งเข้มข้น)
  5. วางเปลือกเสาวรสที่ตัดแต่งแล้วลงบนจานแล้วพักไว้
    วางเปลือกเสาวรสที่ตัดแต่งแล้วลงบนจานแล้วพักไว้ วางเปลือกเสาวรสที่ตัดแต่งแล้วลงบนจานแล้วพักไว้
  6. ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทำอาหาร 20 มล. ตั้งน้ำมันให้ร้อนถึง 60% (ให้มีกลิ่นควันเล็กน้อย) ผัดจนทั้งสองด้านเป็นสีเหลืองทอง 1. ใส่น้ำตาลกรวด 20 กรัม ผัดด้วยตะหลิวจนน้ำตาลละลายและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพัน (ระวังไฟแรงเพื่อไม่ให้ไหม้) ผัดจนซี่โครงหมูแต่ละชิ้นเคลือบด้วยน้ำตาลอย่างทั่วถึง 2. เติมไวน์ปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ ราดจากด้านข้างกระทะเพื่อปล่อยกลิ่นหอม 3. จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว 20 มล. และซอสหอยนางรม 15 มล. ผัดต่ออีก 2 นาที เพื่อให้ซี่โครงดูดซับรสชาติได้อย่างเต็มที่
    ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทำอาหาร 20 มล. ตั้งน้ำมันให้ร้อนถึง 60% (ให้มีกลิ่นควันเล็กน้อย) ผัดจนทั้งสองด้านเป็นสีเหลืองทอง

1. ใส่น้ำตาลกรวด 20 กรัม ผัดด้วยตะหลิวจนน้ำตาลละลายและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพัน (ระวังไฟแรงเพื่อไม่ให้ไหม้) ผัดจนซี่โครงหมูแต่ละชิ้นเคลือบด้วยน้ำตาลอย่างทั่วถึง
2. เติมไวน์ปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ ราดจากด้านข้างกระทะเพื่อปล่อยกลิ่นหอม
3. จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว 20 มล. และซอสหอยนางรม 15 มล. ผัดต่ออีก 2 นาที เพื่อให้ซี่โครงดูดซับรสชาติได้อย่างเต็มที่ ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทำอาหาร 20 มล. ตั้งน้ำมันให้ร้อนถึง 60% (ให้มีกลิ่นควันเล็กน้อย) ผัดจนทั้งสองด้านเป็นสีเหลืองทอง

1. ใส่น้ำตาลกรวด 20 กรัม ผัดด้วยตะหลิวจนน้ำตาลละลายและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพัน (ระวังไฟแรงเพื่อไม่ให้ไหม้) ผัดจนซี่โครงหมูแต่ละชิ้นเคลือบด้วยน้ำตาลอย่างทั่วถึง
2. เติมไวน์ปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ ราดจากด้านข้างกระทะเพื่อปล่อยกลิ่นหอม
3. จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว 20 มล. และซอสหอยนางรม 15 มล. ผัดต่ออีก 2 นาที เพื่อให้ซี่โครงดูดซับรสชาติได้อย่างเต็มที่ ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทำอาหาร 20 มล. ตั้งน้ำมันให้ร้อนถึง 60% (ให้มีกลิ่นควันเล็กน้อย) ผัดจนทั้งสองด้านเป็นสีเหลืองทอง

1. ใส่น้ำตาลกรวด 20 กรัม ผัดด้วยตะหลิวจนน้ำตาลละลายและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพัน (ระวังไฟแรงเพื่อไม่ให้ไหม้) ผัดจนซี่โครงหมูแต่ละชิ้นเคลือบด้วยน้ำตาลอย่างทั่วถึง
2. เติมไวน์ปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ ราดจากด้านข้างกระทะเพื่อปล่อยกลิ่นหอม
3. จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว 20 มล. และซอสหอยนางรม 15 มล. ผัดต่ออีก 2 นาที เพื่อให้ซี่โครงดูดซับรสชาติได้อย่างเต็มที่ ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทำอาหาร 20 มล. ตั้งน้ำมันให้ร้อนถึง 60% (ให้มีกลิ่นควันเล็กน้อย) ผัดจนทั้งสองด้านเป็นสีเหลืองทอง

1. ใส่น้ำตาลกรวด 20 กรัม ผัดด้วยตะหลิวจนน้ำตาลละลายและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพัน (ระวังไฟแรงเพื่อไม่ให้ไหม้) ผัดจนซี่โครงหมูแต่ละชิ้นเคลือบด้วยน้ำตาลอย่างทั่วถึง
2. เติมไวน์ปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ ราดจากด้านข้างกระทะเพื่อปล่อยกลิ่นหอม
3. จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว 20 มล. และซอสหอยนางรม 15 มล. ผัดต่ออีก 2 นาที เพื่อให้ซี่โครงดูดซับรสชาติได้อย่างเต็มที่
  7. ตักซี่โครงหมูผัดและน้ำซุปใส่หม้ออัดแรงดัน ปิดฝาหม้อ เติมน้ำร้อน (น้ำร้อนจะทำให้ซี่โครงนิ่มลง) แล้วใส่ขิงซอย 2 ชิ้น ปิดฝาหม้อ เคี่ยวด้วยไฟแรงจนน้ำซุปเดือด จากนั้นลดไฟลง เคี่ยวประมาณ 12 นาที จากนั้นปิดไฟและปล่อยให้แรงดันลดลง หากใช้หม้อธรรมดา ให้เคี่ยวด้วยไฟกลางค่อนไปทางแรงประมาณ 40 นาที
    ตักซี่โครงหมูผัดและน้ำซุปใส่หม้ออัดแรงดัน ปิดฝาหม้อ เติมน้ำร้อน (น้ำร้อนจะทำให้ซี่โครงนิ่มลง) แล้วใส่ขิงซอย 2 ชิ้น ปิดฝาหม้อ เคี่ยวด้วยไฟแรงจนน้ำซุปเดือด จากนั้นลดไฟลง เคี่ยวประมาณ 12 นาที จากนั้นปิดไฟและปล่อยให้แรงดันลดลง
หากใช้หม้อธรรมดา ให้เคี่ยวด้วยไฟกลางค่อนไปทางแรงประมาณ 40 นาที
  8. หลังจากที่แรงดันในหม้อความดันลดลงตามธรรมชาติแล้ว ให้เปิดฝา เทซี่โครงและน้ำซุปกลับเข้าไปในกระทะ แล้วปรุงด้วยไฟแรงจนน้ำซุปข้น
    หลังจากที่แรงดันในหม้อความดันลดลงตามธรรมชาติแล้ว ให้เปิดฝา เทซี่โครงและน้ำซุปกลับเข้าไปในกระทะ แล้วปรุงด้วยไฟแรงจนน้ำซุปข้น หลังจากที่แรงดันในหม้อความดันลดลงตามธรรมชาติแล้ว ให้เปิดฝา เทซี่โครงและน้ำซุปกลับเข้าไปในกระทะ แล้วปรุงด้วยไฟแรงจนน้ำซุปข้น
  9. เมื่อซุปเริ่มข้น ให้ลดไฟลง แล้วเติมน้ำสับปะรด 30 กรัม น้ำเสาวรส 25 กรัม (เนื้อเสาวรส 50 กรัม) น้ำตาล 10 กรัม (ปรับตามพันธุ์เสาวรสและความหวาน) ผัดอย่างรวดเร็วและทั่วถึงจนพื้นผิวของซี่โครงเคลือบด้วยซอสข้นๆ ที่มีกลิ่นหอมของผลไม้ จากนั้นปิดไฟ
    เมื่อซุปเริ่มข้น ให้ลดไฟลง แล้วเติมน้ำสับปะรด 30 กรัม น้ำเสาวรส 25 กรัม (เนื้อเสาวรส 50 กรัม) น้ำตาล 10 กรัม (ปรับตามพันธุ์เสาวรสและความหวาน) ผัดอย่างรวดเร็วและทั่วถึงจนพื้นผิวของซี่โครงเคลือบด้วยซอสข้นๆ ที่มีกลิ่นหอมของผลไม้ จากนั้นปิดไฟ
  10. วางซี่โครงหมูหนึ่งชิ้นลงในถาดอบแต่ละชิ้น แล้วตักซอสที่เหลือจากหม้อราดลงบนซี่โครงหมูให้ทั่ว สุดท้ายโรยด้วยงาขาวสุก ซี่โครงหมูซอสเสาวรสและสับปะรดรสชาติอร่อยพร้อมรับประทานแล้ว
    วางซี่โครงหมูหนึ่งชิ้นลงในถาดอบแต่ละชิ้น แล้วตักซอสที่เหลือจากหม้อราดลงบนซี่โครงหมูให้ทั่ว
สุดท้ายโรยด้วยงาขาวสุก ซี่โครงหมูซอสเสาวรสและสับปะรดรสชาติอร่อยพร้อมรับประทานแล้ว วางซี่โครงหมูหนึ่งชิ้นลงในถาดอบแต่ละชิ้น แล้วตักซอสที่เหลือจากหม้อราดลงบนซี่โครงหมูให้ทั่ว
สุดท้ายโรยด้วยงาขาวสุก ซี่โครงหมูซอสเสาวรสและสับปะรดรสชาติอร่อยพร้อมรับประทานแล้ว วางซี่โครงหมูหนึ่งชิ้นลงในถาดอบแต่ละชิ้น แล้วตักซอสที่เหลือจากหม้อราดลงบนซี่โครงหมูให้ทั่ว
สุดท้ายโรยด้วยงาขาวสุก ซี่โครงหมูซอสเสาวรสและสับปะรดรสชาติอร่อยพร้อมรับประทานแล้ว
  11. ถ้าคุณไม่รังเกียจรสชาติของเมล็ดเสาวรส คุณก็ไม่จำเป็นต้องกรอง การเก็บเมล็ดไว้จะช่วยเพิ่มรสชาติและความสวยงามให้กับอาหาร แนะนำให้เก็บเมล็ดไว้ตอนรับแขก (สัตว์เลี้ยงของฉันไม่ชอบ ฉันเลยกรอง)
    ถ้าคุณไม่รังเกียจรสชาติของเมล็ดเสาวรส คุณก็ไม่จำเป็นต้องกรอง การเก็บเมล็ดไว้จะช่วยเพิ่มรสชาติและความสวยงามให้กับอาหาร แนะนำให้เก็บเมล็ดไว้ตอนรับแขก (สัตว์เลี้ยงของฉันไม่ชอบ ฉันเลยกรอง)
  12. ความคิดสุ่ม: เกี่ยวกับน้ำสับปะรด I. การเตรียมและการเก็บรักษาน้ำสับปะรด หลังจากคั้นสับปะรดผ่านเครื่องคั้นเพื่อแยกน้ำสับปะรดแล้ว สามารถใส่น้ำสับปะรดบริสุทธิ์ลงในถุงที่ปิดสนิท แช่แข็งอย่างรวดเร็ว และเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อให้หยิบใช้ได้สะดวก วิธีนี้ช่วยรักษารสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของน้ำสับปะรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ II. การใช้ประโยชน์ของน้ำสับปะรด 1. การหมักเนื้อสัตว์: น้ำสับปะรดอุดมไปด้วยโบรมีเลน ซึ่งช่วยสลายโครงสร้างเส้นใยของเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่ หมู และสเต็ก ทำให้เนื้อนุ่มและมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น รสหวานอมเปรี้ยวของน้ำสับปะรดยังช่วยเพิ่มรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับเนื้อสัตว์ ทำให้เนื้อหมักมีรสชาติและกลิ่นหอมหลังจากปรุงสุก 2. การทำซอส/น้ำสลัด: สามารถใช้ในน้ำสลัดเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้ให้กับสลัด นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในซอสบาร์บีคิวเพื่อเพิ่มรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่ซับซ้อนให้กับอาหารย่าง และยังสามารถใช้ทำซอสหวานอมเปรี้ยวสำหรับรับประทานคู่กับอาหารทอดได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การเติมน้ำสับปะรดลงในแกงและอาหารไทยยังช่วยเพิ่มรสชาติโดยรวมด้วยการเพิ่มชั้นของผลไม้ 3. การจับคู่กับเบเกอรี่: การเติมน้ำสับปะรดลงในของหวานอย่างเค้ก คุกกี้ และเยลลี่ จะช่วยเพิ่มรสชาติหวานอมเปรี้ยว เข้มข้นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวแบบทรอปิคอล ทำให้ขนมอบของคุณน่ารับประทานยิ่งขึ้น สุดท้าย น้ำสับปะรดและเสาวรสคือส่วนผสมที่ลงตัวของความหวานอมเปรี้ยว ความหวานของน้ำสับปะรดผสานกลิ่นผลไม้ทรอปิคอล และรสเปรี้ยวของเสาวรส ผสมผสานกับกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเมล็ด ก่อให้เกิดรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่ช่วยปรับสมดุลความเปรี้ยวและเพิ่มความหวาน รสชาติสับปะรดสดชื่น ตามมาด้วยรสชาติเสาวรสเข้มข้น ให้กลิ่นหอมผลไม้ที่เข้มข้นแต่ไม่เลี่ยน
Languages
Spareribs mit Passionsfrucht-Ananassauce - Deutsch (German) version
Passion Fruit and Pineapple Sauce Spare Ribs - English version
Costillas de cerdo con salsa de maracuyá y piña - Española (Spanish) version
Travers de porc à la sauce aux fruits de la passion et à l'ananas - Français (French) version
Iga Babi Saus Nanas dan Markisa - Bahasa Indonesia (Indonesian) version
Costine di maiale con salsa al frutto della passione e ananas - Italiana (Italian) version
パッションフルーツとパイナップルソースのスペアリブ - 日本語 (Japanese) version
패션프루트와 파인애플 소스 갈비 - 한국인 (Korean) version
ซี่โครงหมูอบซอสเสาวรสและสับปะรด - แบบไทย (Thai) version
百香果菠蘿汁排骨 - 香港繁體中文 (Traditional Chinese - Hong Kong) version